วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

หลวงพ่อทองเหมาะ วัดชีปะขาว

หลวงพ่อทองเหมาะ (พระครูสุวรรณพัฒนโกศล)
วัดชีปะขาว ต.ตะค่า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
  ผู้สืบทอดพุทธาคม หลวงพ่อเนียม วัดน้อย  หลวงพ่ออ่ำ วัดชีปะขาว  หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ
ปัจจุบันอายุ ๗๒ ปีเดิมชื่อ ทองเหมาะ ศรีสุข เกิดวันที่ ๑๑ ก.พ. ๒๔๘๑  ปีขาล ณ.บ้านตะค่า ใกล้วัดชีปะขาว เป็นบุตรพ่อเอก แม่เจียน มีความสนใจในพระเวทย์วิทยาคมตั้งแต่เด็กเพราะท่านมีปู่เป็นนักเลงเรืองอาคมเนื่องจากปู่เป็นศิษย์หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ผู้ซึ่งเป็นศิษย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรํสี  วัดระฆังฯ และยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดันและเกจิอีกหลายรูปของจ.สุพรรณบุรี นอกจากนี้ปู่ของท่านยังได้รับตำราที่เกี่ยวกับ
การลงตะกรุดเลขยันต์วิชาคงกระพันชาตรีจากหลวงพ่อเนียมถึง ๓ เล่ม มีวิชาเด่นๆอยู่มากมายเช่น วิชาเสือมหาอำนาจ  วิชาตรีนิสิงเห ที่หลวงพ่อเนียมใช้ลงตะกรุดมหาอุตม์  วิชาหัวใจพระกัสสป(สี่เกลอ)ที่นำมาลงเป็นตะกรุดสังวาลเพชร  วิชาลบผงต่างๆ  วิชาเหล่านี้หลวงพ่อทองเหมาะและพี่ชายของท่านได้สืบทอดไว้จนหมดสิ้นตั้งแต่ก่อนบวชแล้ว อีกทั้งท่านยังได้รับพุทธาคมจากอ.ยิ้ม  อาจารย์สัก ฆาราวาสหนังเหนียวที่อยู่ข้างบ้านท่านด้วย  ทำให้หลวงพ่อทองเหมาะ นั้นเชี่ยวชาญอาคมตั้งแต่หนุ่ม  ทำให้วัยรุ่นในย่านนั้นนับถือยำเกรงหลวงพ่อเพราะท่านเป็นคนไม่ค่อยพูด มีจิตใจแน่วแน่ เป็นนักเลงเต็มตัว พอคัดเลือกทหารเสร็จท่านจึงอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๔ ก.พ. ๒๕๐๒ ณ.อุโบสถวัดชีปะขาวโดยมี พระสุนทรธรรมคณี วัดลานดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อขมและหลวงพ่อเกลี้ยงวัดชีปะขาวเป็นพระกรรมวาจารย์และ อนุสาวนาจารย์โดยลำดับ บวชแล้วไปจำพรรษา ณ.วัดลานคา กับพระพี่ชายคือ พระครูสุวิบูลย์สังฆกิจ (ประจวบ สมฺปณโณ )  และไปศึกษาพระเวทย์วิทยาคมกับหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ  เจ้าตำรับตุ๊กแกร้องได้อันโด่งดังโดยหลวงพ่อครื้นเมตตาถ่ายทอด วิชาตุ๊กแกร้องได้ให้  จากนั้นก็ได้ไปเรียน วิชาน้ำมนต์เดือดและวิธีเสกพระแบบวัดปากน้ำกับหลวงพ่อเล็ก วัดลาดหอย ศิษย์หลวงพ่อสด  วัดปากน้ำ ผู้เป็นลุงของท่าน และเรียนวิชาต่างๆอีกมากมายกับ อาจารย์หล่อ ศิษย์ฆาราวาสของหลวงพ่ออ่ำ วัดชีปะขาว หลานชายแท้ๆของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ระหว่างนั้นท่านกับพระพี่ชายก็ได้ออกรุกขมูลทุกปี โดยบางปีเข้าไปถึงเขมรได้พบปะแลกเปลี่ยนร่ำเรียนพระเวทย์อีกมาก เคยถูกลองของมาก็ไม่น้อย จนกระทั่งเริ่มชราหลวงพ่อ จึงหยุดเดินรุกขมูลในปีพ.ศ.๒๕๓๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น